ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Doxy-PEP ควรใช้เมื่อไหร่? การป้องกันหลังเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศ

ในยุคปัจจุบันที่การติดต่อสื่อสารและการพบปะกันมีความสะดวกมากขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections หรือ STIs) ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก แม้จะมีความก้าวหน้าในการรักษาและป้องกัน แต่อัตราการติดเชื้อก็ยังคงสูงในหลายประเทศ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบบใหม่ที่เรียกว่า "Doxy-PEP" (Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis) ซึ่งเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะ Doxycycline เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังจากมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ เราจะอธิบายว่า Doxy-PEP คืออะไร ใช้อย่างไร และเหมาะสมกับใครบ้าง รวมถึงข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น Doxy-PEP คืออะไร? Doxy-PEP ย่อมาจาก Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis เป็นวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดหลังจากมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ โดยใช้ยาปฏิชีวนะ Doxycycline ในขนาดเดียว (single dose) ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน Doxycycline เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่ม Tetracycline ที่มีฤทธิ์กว้างในการต่อต้
โพสต์ล่าสุด

วิธีตรวจซิฟิลิส: รู้เร็ว รักษาได้ทันเวลา

ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การตรวจหาเชื้อซิฟิลิสแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการป้องกันและรักษาโรคนี้ บทความนี้ จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการตรวจซิฟิลิส ความสำคัญของการตรวจ และแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซิฟิลิส คืออะไร? ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum โรคนี้สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือช่องปาก รวมถึงการสัมผัสโดยตรงกับแผลซิฟิลิส นอกจากนี้ ซิฟิลิสยังสามารถถ่ายทอดจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ได้ด้วย ซิฟิลิสเป็นโรคที่มีระยะการดำเนินโรคหลายระยะ โดยแต่ละระยะมีอาการและความรุนแรงที่แตกต่างกัน การรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงที ความสำคัญของการตรวจซิฟิลิสแต่เนิ่นๆ การตรวจหาเชื้อซิฟิลิสแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเหตุผลหลายประการ: ป้องกันการแพร่กระจายของโรค: การตรวจพบเชื้อตั้งแต่ระยะแรกช่วยให้ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาทันที ลดโอกาสในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น รักษาได้ง่ายแ

เคล็ดลับง่ายๆ ในการป้องกันฝีดาษวานรในชีวิตประจำวัน

ฝีดาษวานร (Monkeypox) เป็นโรคติดเชื้อที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับโรคฝีดาษ (Smallpox) แต่มีการแพร่กระจายและลักษณะอาการที่แตกต่างออกไป การป้องกันฝีดาษวานร จึงเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องสุขภาพของเราและคนรอบข้าง นอกจากการปฏิบัติตามคำแนะนำพื้นฐานที่กล่าวถึงแล้ว ยังมีรายละเอียดและวิธีการป้องกันที่สำคัญอื่น ๆ ที่เราควรรู้ เพื่อให้สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเข้าใจถึงโรคฝีดาษวานร ฝีดาษวานร เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Monkeypox Virus ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Orthopoxvirus ในกลุ่มที่ใกล้เคียงกับไวรัสฝีดาษทั่วไป แต่มีลักษณะการแพร่กระจายและความรุนแรงที่ต่างออกไป อาการของฝีดาษวานร อาจเริ่มจากอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ และปวดหลัง ตามด้วยการเกิดผื่นที่มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำและแผลที่ผิวหนัง การติดเชื้อฝีดาษวานรสามารถเกิดได้จากการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น ลิง หนู กระรอก หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับสิ่งของที่มีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัส นอกจากนี้ การแพร่กระจายจากคนสู่คนก็สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับผื่นหรือของเหลวจากแผล การใกล้ชิด หรือม

แคมเปญ U=U&ME ของมูลนิธิเพื่อรัก: สร้างความเข้าใจ เปลี่ยนทัศนคติเรื่องเอชไอวีในสังคมไทย

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สตูดิโอ Crimson ในกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นสถานที่จัดการถ่ายภาพสำหรับแคมเปญที่มีชื่อเรียกว่า "U=U&ME" ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิเพื่อรัก (Love Foundation) ซึ่งมุ่งเน้นการเผยแพร่และเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อเอชไอวี โดยเน้นที่การให้ความรู้และการต่อต้านการตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีในสังคมไทย แนวคิดเรื่อง U=U&ME แคมเปญ "U=U&ME"  เป็นพื้นที่ที่มุ่งเน้นการเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแนวคิด "U=U" (Undetectable=Untransmittable) ซึ่งหมายถึงการไม่ตรวจพบเชื้อเอชไอวีเท่ากับไม่สามารถแพร่เชื้อได้ แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกและสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำทั่วโลก ช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณไวรัสในเลือดต่ำจนไม่สามารถตรวจพบได้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และมีความสัมพันธ์ทางเพศโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแพร่เชื้อ บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแคมเปญ ในการเปิดตัวแคมเปญนี้ มีการเข้าร่วมมือจากบุคคลที่มีชื่อเสียง และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแคมเปญ ได้แก่ ส.ส

งาน Trans Pride Thailand ครั้งแรก: การรวมตัวครั้งสำคัญของชุมชนคนข้ามเพศและพันธมิตรในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ณ สีลมเอจ กรุงเทพฯ งาน Trans Pride Thailand ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งรวบรวมชุมชนคนข้ามเพศและพันธมิตรในประเทศไทยในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน งานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Self Determination for the Future อนาคตกำหนดได้ด้วยตัวเอง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ที่เป็นธรรมและเป็นกลางให้กับชุมชนคนข้ามเพศได้เติบโตและพัฒนาตนเองในทุกด้านอย่างยั่งยืน งาน Trans Pride Thailand ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการสร้างความเข้าใจ ความเท่าเทียม และการเสริมสร้างโอกาสให้กับคนข้ามเพศในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนและความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่และความตื่นเต้นในงาน งานเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 12:00 น. โดยมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่สีลมเอจ สถานที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่หลากหลายและเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวมของชุมชน LGBTQ+ ในกรุงเทพฯ บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพลังของการเฉลิมฉลอง ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคนภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาที่น่าสนใจ โดยเ

ความร่วมมือด้านสุขภาพดิจิทัลระหว่าง Love Foundation และ APCOM

Love Foundation และ APCOM ประกาศความร่วมมือกัน เพื่อสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ยกระดับการริเริ่มด้านสุขภาพชุมชน ผ่านความร่วมมือเชิงดิจิทัลอันเป็นแนวคิดใหม่ ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ณ ซอยสีลม 4 กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของทั้งสององค์กร ในการยกระดับการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และข้อมูลสุขภาพสำหรับกลุ่ม LGBTQI+ และกลุ่มประชากรสำคัญอื่น ๆ แพลตฟอร์มดิจิทัล Love Foundation และ APCOM นำทัพความเปลี่ยนแปลง หัวใจสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ คือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Love2Test.org ของมูลนิธิเพื่อรัก และ testBKK.org ของมูลนิธิแอ๊พคอม ซึ่งรวบรวมแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการตรวจสุขภาพ ไปจนถึงเนื้อหาส่งเสริมสุขภาพ แพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้งานง่าย สะดวกสำหรับสมาชิกทุกคนในชุมชน และยังมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชไอวี และปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ยกย่องชุมชน สู่พลังแห่งการมีส่วนร่วม งานนี้สะท้อนจิตวิญญาณของชุมชนอย่างแท้จริง ผู้เข้าร่วมงานต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศอันคึกคักของซอยสีลม 4 ในช่วงค่ำคืน เริ่มต้นด้วยการแสดง